BX.in.th Bitcoin Exchange Thailand

12 พฤษภาคม 2558

วิเคราะห์งบการเงิน

การวิเคราะห์งบการเงินด้วยอัตราส่วนทางการเงิน (Ratio Analysis)

   การวิเคราะห์งบการเงินโดยใช้อัตราส่วนทางการเงินส่วนใหญ่จะวิเคราะห์ 4 ส่วนต่อไปนี้เป็นหลัก

  1. Liquidity Ratio หรือ การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน เป็นอัตราส่วนใช้วัดความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น หรือ วัดสภาพคล่องของกิจการ โดยอัตราส่วนที่ใช้หลักๆมีดังต่อไปนี้

      1.1 Current Ratio หรือ อัตราส่วนทุนหมุนเวียน เป็นการวัดถึงสภาพคล่องของ สินทรัพย์หมุนเวียน (CA)/หนี้สินหมุนเวียน(CL)  ถ้าค่าที่ออกมาได้น้อยกว่า 1 แสดงว่าบริษัทนี้มีหนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน ซึ่งต้องพิจารณาว่าทำไมถึงมีหนี้มากกว่าสินทรัพย์ ซึ่งโดยปกติอัตราส่วนสินทรัพย์หมุนเวียนต่อมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน 2:1 ถึงจะเหมาะสม

      1.2 Quick Ratio หรือ อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็ว เป็นการวัดถึงสภาพคล่องของกิจการที่สามารถนำสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็ว เพื่อมาจ่ายชำระหนี้ระยะสั้น โดย  Quick Ratio = (สินทรัพย์หมุนเวียน-สินค้าคงเหลือ)/หนี้สินหมุนเวียน หรือ  CA-Inventory/CL

      1.3 Account Receivable Turnover หรือ อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ เป็นการวัดถึงความสามารถในการบริหารลูกหนี้ให้แปลงสภาพเป็นเงินสดได้เร็ว โดย A/R Turnover = ยอดขายรวม/ลูกหนี้ถัวเฉลี่ย โดยที่ ลูกหนี้ถัวเฉลี่ย = (ลูกหนี้ต้นงวด+ลูกหนี้ปลายงวด)/2 เช่นลูกหนี้การค้าปี 57 + ลูกหนี้การค้าปี 58/2 จะออกมาเป็นลูกหนี้ถัวเฉลี่ย จะบอกถึงการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อและเก็บเงินการลูกหนี้ได้เร็วขนาดไหน

      1.4 Average Collection Period หรือ ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเก็บเรียกเก็บหนี้ โดยวิธีคำนวณ Average Collection period = 365 Day/Account Receivable การคำนวณผลที่ได้จะออกมาเป็นวันยิ่งจำนวนวันยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการเก็บหนี้

      1.5 Inventory Turnover หรือ อัตราหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ โดยวิธีคำนวณ  Inventory Turnover = ต้นทุนสินค้าขาย/สินค้าคงเหลือเฉลี่ย โดยที่ สินค้าคงเหลือเฉลี่ย = (สินค้าต้นงวด+สินค้าปลายงวด)/2 โดยผลที่ได้จะบ่งบอกถึงการขายสินค้ายิ่งถ้าค่าที่ออกมามากแสดงว่ามีความสามารถในการขายมากหรือสินค้าเป็นที่นิยม (กรณีถ้าบริษัทเป็นธุรกิจบริการต่างๆ อาจไม่มีสินค้าคงเหลือก็ไม่สามารถใช้อัตราส่วนนี้ได้)

      1.6 ระยะเวลาในการจำหน่ายสินค้า โดยวิธีคำนวณคือ 365 Day/Inventory Turnover โดยที่จำนวนวันยิ่งน้อยยิ่งดี

   2. Leverage Ratio หรือ การใช้อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายการเงิน เพื่อให้ทราบถึงว่าแหล่งทีมาจากเงินทุนมาจากหนี้สินหรือเงินทุนของเจ้าของกิจการโดยอัตราส่วนที่นิยมใช้มีีดังต่อไปนี้

      2.1 Debt to Equity Ratio หรือ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน วิธีคำนวณ Debt to Equity = หนี้สินรวม/ส่วนของเจ้าของ ถ้าค่าออกมามากแสดงว่าบริษัทมีการกู้ยืมเงินมาลงทุนมากว่าเงินทุนของเจ้าของ

      2.2 Interest Coverage หรือ ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย วิธีคำนวณ Interest Coverage = {กำไรสุทธิ(Net Profit) + ภาษีเงินได้(Tax)-ดอกเบี้ยจ่าย(Interest)}/ดอกเบี้ยจ่าย(Interest)

      2.3 Dividend Payout หรือ อัตราการจ่ายเงินปันผล วิธีคำนวณ Dividend Payout = เงินปันผลต่อหุ้น(Dividend/share)/กำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS)

   3. Efficiency Ration หรือ อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการทำงาน อัตราส่วนนี้จะบ่งบอกถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อให้เกิดผลตอบแทนได้มากน้อยเท่าไหร่ โดยอัตราที่นิยมใช้มีดังนี้

      3.1 Return On Asset (ROA) หรือ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม วิธีคำนวณ ROA = กำไรสุทธิ(Net Profit)/สินทรัพย์รวม(Total Assets) โดยที่ถ้าค่ายิิ่งสูงยิ่งดี นั้นแสดงว่าสามารถในการทำกำไรของการใช้สินทรัพย์มีประสิทธิภาพที่ดี

      3.2 Total Assets Turnover หรือ อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม วิธีคำนวณ Total Assets Turnover = ยอดขายสุทธิ(Sales or Revenue)/สินทรัพย์รวม(Total Assets) โดยถ้าค่าออกมากสูงแสดงว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการทำงานดีสามารถใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ได้เกินประสิทธิภาพดี แต่ถ้าค่าที่ได้ออกมาต่ำแสดงว่า บริษัทมีสินทรัพย์มากเกินความต้องการ


   4. Profitability Ratio หรือ ความสามารถในการทำกำไร เป็นอีกหนึ่งอัตราส่วนที่นักลงทุนควรดูเพราะถ้าบริษัทที่เราลงทุนไม่มีกำไรนั้นแสดงว่าเราอาจไม่ได้เงินปันผล โดยอัตราส่วนที่นิยมใช้มีดังนี้


       4.1 Gross Profit Margin หรือ อัตรากำไรขั้นต้น วิธีคำนวณ Gross Profit Margin = ยอดขายสุทธิ(Sales or Revenue) - ต้นทุนขาย(Cost of Sales)/ขายสุทธิ หรือ กำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin/ขายสุทธิ(Sales or Revenue) โดยที่ค่ายิ่งสูงยิ่งดีแต่ในกรณีที่ติดลบแสดงว่ากำไรขั้นต้นขาดทุน

      4.2 Net Profit Margin หรือ อัตรากำไรสุทธิ วิธีคำนวณ Net Profit Margin = กำไรสุทธิ(Net Profit)/ขายสุทธิ(Sales or Revenue)  โดยที่ค่ายิงสูงยิ่งดีแต่ในกรณีที่ติดลบแสดงว่ากำไรสุทธิหลังหักภาษีขาดทุน

       4.3 Return On Equity (ROE) หรือ ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น วิธีคำนวณ Return On Equity(ROE) = กำไรสุทธิ(Net Profit)/ส่วนของผู้ถือหุ้นหรือส่วนของเจ้าของ(Equity) โดยที่ค่าออกมาสูงแสดงว่าจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาจากการดำเนินงานของกิจการนั้นสูง ประสิิทธิภาพในการหากำไรของบริษัท

      จะเห็นว่าในอัตราส่วนในแต่ละตัวจะมีความสำคัญไม่เหมือนกันสำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้จบบัญชีหรือการเงินมา อาจจะงงๆว่าสินทรัพย์หมุนต้องไปดูที่ไหน กำไรขั้นต้นกับกำไรสุทธิต่างกันอย่างไร โดยปกติในการวิเคราะห์งบการเงิน เราจะนำค่ามาจาก งบดุล(Balance Sheet) และ งบกำไรขาดทุน(Profit&Loss) นักลงทุนที่เพิ่งหัดอ่านงบ HOONINBOX แนะนำให้อ่านงบบริษัทเล็กๆก่อนเพราะรายละเอียดไม่เยอะลองเริ่มดูงบการกลุ่มบริษัทในตลาด MAI ก่อนก็ได้นะครับ 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น