นักลงทุนเคยคิดไหมครับว่าอัตราดอกเบี้ยส่งผลอย่างไรกับตลาดหุ้น ถ้าตลาดหุ้นขึ้นแต่อัตราดอกเบี้ยสูงเราควรทำอย่างไร ผมมีโอกาสได้ไปคุยกับพี่ท่านหนึ่งซึ่งผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ดีเลยนำมาเขียนแชร์ครับ ถ้าคนที่อายุเกิน 30 ปี คงจำกันได้นะครับว่าประเทศไทยเคยมีช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงถึง 10% ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมากสำหรับคนมีเงินโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรก็ได้ผลตอบแทนถึง 10% มีเงิน 100,000 บาท ได้ ดอกเบี้ย 10,000 บาท โดยที่ความเสี่ยงน้อยมากและนักลงไม่เหนื่อยและไม่ต้องเสี่ยงกับตลาดหุ้นด้วยนี่มันเยี่ยมสุดๆไปเลย แต่ในประเทศเราคนส่วนใหญ่จะมีภาระในค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่นค่าผ่อนบ้าน ลองคิดดูสิครับว่าแต่ก่อนดอกเบี้ย 3% เงินต้น 3,000,000 บาท โดยปกติเราจ่ายดอกเบี้ยแค่ 90,000 บาท แต่ถ้าดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 6% เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 180,000 บาท โดยรายได้รวมของประชากรคงที่นั้นจะเกิดอะไรขึ้น? นี่แค่ 6% นะครับลองคิดย้อนไปสักสมัยที่ดอกเบี้ยเงินฝาก 10% ดอกเบี้ยเงินกู้ต้องมากกว่า 10% คนมีเงินยังไงก็สบายแต่คนไม่มีเงินแล้วไม่มีหนี้สิ เรียกได้ว่างานเข้าเลยครับ คำว่า"ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย"คงเป็นประโยคเด็ดในตอนนั้น
แล้วจะส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างไร กรณีที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีเงินใช้จ่ายบริษัทต่างๆก็ขายของไม่ได้ ธนาคารก็เกิดหนี้สูญมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนครับผลประกอบการแต่ละบริษัทย่อมออกมาไม่ดี เม็ดเงินลงทุนในตลาดทุนก็จะลดลงมีแรงขายมากกว่าแรงซื้อส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัว ส่วนตัวทีมงาน Hooninbox มองว่าถ้าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวขึ้นมากกว่า 4% บ่งบอกถึงอันตรายที่ตลาดมีโอกาสปรับตัว นอกจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศนักลงทุนควรจะพิจารณาถึงอัตราดอกเบี้ยของต่างประเทศด้วย ถ้ามีแนวโน้มว่า Fed หรือ ธนาคารกลางในสหรัฐ ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากกว่า 4% ทางทีมงาน Hooninbox แนะนำเอาเงินออกมาจากตลาดแล้วมาฝากดอกเบี้ยดีกว่านะครับ ส่วนคนมีหนี้ก็ควรรีบชำระให้ครบ
เห็นไหมครับว่าอัตราดอกเบี้ยที่เค้าประกาศเพิ่มหรือลดมันมีผลต่อเศรษฐมากขนาดไหน บางคนเพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดฟังข่าวเกี่ยวกับการปรับลด-เพิ่ม อัตราดอกเบี้ย ทาง Hooninbox อยากให้มองเป็นระยะยาวๆนะครับถ้าแนวโน้มในระยะยาวเค้าจะปรับไปทิศทางไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น